บทความที่น่าสนใจ
ตัวแทนไทยประกัน....อยากให้ท่านรู้ว่า เรายืนอยู่เคียงข้างคุณเสมอ
เรื่องนี้ต้องรู้ ความดันโลหิตคืออะไร ก่อนเกินอาการความดันโลหิตต่ำ-สูง
ความดันโลหิต หลายคนอาจจะมองว่าโรคเหล่านี้เป็นเรื่องไกลตัวและละเลยการดูแลตัวเอง ด้วยความที่อาการจะเป็นอาการเจ็บป่วยทั่วไป หลายคนอาจจะคิดไม่ถึงว่าจะเป็น "ความดันต่ำ" และ "ความดันสูง" ด้วยซ้ำ โดยอาการหลักๆ จะรู้สึกปวดหัวบ่อยคล้ายโรคไมเกรน ปวดตึงที่ต้นคอ บางครั้งก็หน้ามืด หรือเลือดกำเดาก็ไหล รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น ขาดสารอาหาร หรือสภาวะทางอารมณ์ เป็นต้น อาการทั้ง 2 ประเภทนี้ย่อมมีอันตรายที่แตกต่างกัน และเป็นส่วนหนึ่งของการเกิดโรคร้ายอื่นๆ ตามมาอีกด้วย
ความดันโลหิตคือ (ความดันปกติคือเท่าไหร่)
ความดันโลหิตเป็นค่าความดันของกระแสเลือดที่ส่งแรงกระทบกับผนังหลอดเลือดแดง ที่วัดได้ ณ หลอดเลือดส่วนปลาย ซึ่งเกิดจากการบีบตัวของหัวใจ ส่งผ่านหลอดเลือดเพื่อนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ที่เรียกว่า "กระบวนการสูบฉีดเลือดของหัวใจ" โดยสามารถวัดความดันโลหิตได้ 2 ค่า
ความดันช่วงบน (Systolic blood pressure) หมายถึง แรงดันเลือดในขณะที่หัวใจบีบตัวร่วมกับสภาพของหลอดเลือด ซึ่งอาจจะสูงตามอายุ และความดันช่วงบนของคนคนเดียวกัน อาจมีค่าที่ต่างกันออกไป ตามท่าเคลื่อนไหวของร่างกาย การเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ และปริมาณของการออกกำลังกาย
ความดันช่วงล่าง (Diastolic blood pressure) หมายถึง แรงดันเลือดในขณะที่หัวใจคลายตัว จะขึ้นกับความยืดหยุ่นของหลอดเลือด
ความดันโลหิตจะสูงหรือต่ำ มีปัจจัยที่สำคัญที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ได้แก่ การบีบตัวของหัวใจ สภาพของหลอดเลือด และปริมาณของเลือด ซึ่งความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากค่าความดันโลหิตสูงหรือต่ำ เราสามารถตรวจหาอาการดังกล่าวได้ด้วยการวัดค่าความดันโลหิต ในปัจจุบันได้มีการกำหนดค่าความดันโลหิตปกติที่ “เหมาะสม” ของคนอายุ 18 ปี ขึ้นไป จะอยู่ที่ 120-129 (mm/Hg) สำหรับตัวบน และ และ 80-84 (mm/Hg) สำหรับตัวล่าง
การเตรียมตัวอย่างไรก่อนวัดความดันโลหิต
ในการเตรียมตัวเพื่อวัดความดันโลหิต ควรปฏิบัติดังนี้ เพื่อความแม่นยำในการอ่านค่าความดันโลหิต เพื่อเป็นประโยชน์ในการวินิจฉัยและวางแผนในการรักษาของแพทย์
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6 - 8 ชั่วโมง
งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน แอลกอฮอล์ ก่อนวัดความดันโลหิต 30 นาที
ไม่ผ่านการออกกำลังกาย รวมถึงไม่มีภาวะด้านอารมณ์ เช่น โกรธ เครียด เป็นต้น
งดสูบบุหรี่ก่อนวัดความดันโลหิตอย่างน้อย 30 นาที
ทำการปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อนทำการวัดความดันโลหิต
นั่งพักก่อนทำการตรวจวัดความดันโลหิตอย่างน้อย 5-15 นาที
หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อแขนยาว
ไม่ทำการวัดความดันโลหิตหลังจากทานอาหารเสร็จทันที
เวลาวัดความดันโลหิต ควรอยู่ในท่าที่สบาย
ไม่ควรพูดคุยขณะวัดความดันโลหิต
ความดันโลหิตต่ำ คือ
ความดันโลหิตต่ำ คือ ภาวะความดันโลหิตต่ำเกิดขึ้นเมื่อความดันโลหิตต่ำกว่า 90/60 (mm/Hg) ในผู้ใหญ่ และค่าความดันต่ำกว่า 100/70 (mm/Hg) ในผู้สูงอายุ ซึ่งผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำอาจมีอาการวิงเวียนศีรษะและเป็นลม มักจะพบในผู้ที่มีสุขภาพร่างกายอ่อนแอ ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคความดันโลหิตต่ำ รวมถึงสาเหตุอื่นๆ เช่น การขาดน้ำหรือความผิดปกติที่ร้ายแรงอื่นๆ ทั้งนี้แพทย์ไม่จัดความดันโลหิตต่ำเป็นโรค แต่จัดเป็นภาวะ และทำการค้นหาต้นตอสาเหตุของภาวะความดันโลหิต เพื่อวางแผนการรักษาให้ถูกวิธี
อาการของความดันโลหิตต่ำ
ในผู้ป่วยความดันต่ำ โดยทั่วไปแล้วมักจะไม่มีการแสดงอาการเจ็บป่วยใดๆ แต่ในบางรายอาจจะมีอาการหูอื้อ วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม ทรงตัวไม่อยู่ มองเห็นภาพไม่ชัด ใจสั่น ใจเต้นแรง อาการมึนงง สับสน คลื่นไส้ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หายใจตื้นและถี่ กระหายน้ำ ตัวเย็น ผิวซีด หนาวสั่น ปฏิกิริยาเชื่องช้า ระบบการย่อยอาหารไม่ดี และในผู้ป่วยที่มีอาการหนัก มักจะมีอาการหัวใจเต้นเร็วไม่สม่ำเสมอ เวียนศีรษะในท่ายืน หายใจลำบากร่วมเข้ามาด้วย
ภาวะความดันโลหิตต่ำส่งผลร้ายต่อระบบภายในร่างกาย ทำให้เลือดไหลเวียนช้าลงเลือดไปล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายไม่เพียงพอ ซึ่งง่ายต่อการเกิดลิ่มเลือดทำให้หลอดเลือดอุดตัน และภาวะความดันโลหิตต่ำ ยังอาจทำให้เกิดภาวะช็อกได้ หากมีอาการขั้นรุนแรง
ดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อเป็นความดันโลหิตต่ำ
โดยทั่วไปแล้วเมื่อพบว่าตนเองมีอาการของภาวะความดันโลหิตต่ำ ให้หลีกเลี่ยงหรือหยุดทำกิจกรรมทุกอย่าง ให้นั่งพักหรือนอนลง หากเวียนศีรษะให้นั่งลงแล้วก้มศีรษะไว้ระหว่างหัวเข่า เพื่อช่วยให้ความดันโลหิตกลับเป็นปกติ โดยอาการดังกล่าวจะเกิดในระยะเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่นาที แต่นอกจากนี้อาจจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ เพื่อป้องกันและดูแลตนเองจากภาวะความดันโลหิตต่ำ
หลังจากการตื่นนอนควรลุกออกจากเตียงช้าๆ หากกำลังนอนอยู่อาจขยับเท้าขึ้นลงเพื่อช่วยการไหลเวียนโลหิต นอกจากนี้ควรขยับร่างกายเบาๆ เพื่อเพิ่มจังหวะการเต้นของหัวใจและการไหลเวียนโลหิตของร่างกายได้
หลีกเลี่ยงการยืนเป็นเวลานาน การยืนเป็นเวลานานๆ นั้นอาจทำให้เกิดภาวะความดันต่ำประเภทที่เกิดจากการยืนเป็นเวลานาน (Neurally Mediated Hypotension) หรือความดันต่ำจากการสื่อสารที่ผิดพลาดระหว่างสมองและหัวใจ
ควรดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมช่วยเพิ่มปริมาณของเหลวในร่างกาย และป้องกันการเกิดภาวะขาดน้ำที่เป็นอีกสาเหตุสำคัญของภาวะความดันต่ำ
หลีกเลี่ยงคาเฟอีนในเวลากลางคืน เพราะคาเฟอีนเป็นสารที่อาจเพิ่มความของภาวะความดันต่ำได้
ควรงดหรือจำกัดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลต่อการทำงานของร่างกายหลายด้าน ทั้งยังนำไปสู่ภาวะขาดน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของความดันโลหิตต่ำ
ควรรับประทานอาหารในปริมาณน้อย แต่แบ่งเป็นหลายมื้อแทน เพื่อป้องกันความดันต่ำชนิดที่เกิดขึ้นหลังจากรับประทานอาหาร (Postprandial Hypotension) และจำเป็นต้องควบคุมอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต และควรนั่งพักหลังรับประทานอาหาร นอกจากนี้ควรรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของเกลือ เพราะโซเดียมจะทำให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น แต่ควรภายใต้การควบคุมของแพทย์
สวมถุงน่องที่กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต (Compression stockings) เป็นถุงน่องที่ใช้ในทางการแพทย์ ช่วยบีบรัดให้เกิดแรงดันบริเวณเท้า ขา และท้อง ซึ่งจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและเพิ่มระดับความดันโลหิต ดังนั้นควรขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อนใช้งานเสมอ
ควรยกระดับศีรษะในขณะนอน อาจใช้ผ้าหนาหรือของแข็งวางใต้หมอน เพื่อช่วยให้ศีรษะอยู่สูงกว่าปกติ ทั้งนี้ควรพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวัน
ไม่ให้ร่างกายสัมผัสกับน้ำร้อนเป็นเวลานาน เช่น ไม่แช่น้ำร้อนหรือทำสปาเป็นเวลานาน
ขณะขับถ่าย ไม่ควรเบ่งมากเกินไป
ความดันโลหิตสูง คือ
ความดันโลหิตสูง หมายถึง ภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงความดันในหลอดเลือดที่สูงขึ้น ในปัจจุบันแพทย์วินิจฉัยว่าในภาวะปกติผู้ที่มีความดันเท่ากับหรือมากกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งถือว่าเป็นสภาวะผิดปกติที่บุคคลมีระดับความดันโลหิตสูงกว่าระดับปกติของคนทั่วไป และถือว่าเป็นสภาวะที่ต้องควบคุม เนื่องจากความดันโลหิตสูงทำให้เกิดความเสียหายของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงการเสื่อมสภาพของหลอดเลือดแดงและหัวใจ นำมาซึ่งโรคหัวใจตีบตัน โรคหลอดเลือดสมองตีบตัน นอกจากนี้ความดันโลหิตสูงยังเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาได้เช่น โรคหัวใจวาย โรคอัมพาต โรคสมองเสื่อมหรือโรคไตวายเรื้อรัง
อาการของความดันโลหิตสูง
โดยทั่วไปผู้ป่วยภาวะความดันโลหิตสูงมักไม่มีสัญญาณหรือแสดงอาการใดๆ ถึงแม้ว่าค่าความดันโลหิตจะอยู่ในระดับที่สูงเกินปกติก็ตาม บางรายที่มีภาวะความดันโลหิตสูง อาจมีอาการปวดมึนท้ายทอย ตึงที่ต้นคอ ปวดศีรษะเฉียบพลันและมีอาเจียนร่วม หายใจถี่ เวียนศีรษะ เลือดกำเดาไหล เจ็บหน้าอกรุนแรง แขนขาซีกหนึ่งซีกใดอ่อนแรง (ในระยะเวลาอันสั้นและหายเอง) หรือตาข้างใดข้างหนึ่งมองไม่เห็นและกลับมาเป็นปกติ นอกจากนี้ภาวะความดันโลหิตสูงอาจเกิดจากกรรมพันธุ์และความเครียดอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามอาการเหล่านี้มักไม่แสดงจนกว่าภาวะความดันโลหิตจะอยู่ในขั้นรุนแรง
กรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะความดันโลหิตสูงแล้วจำเป็นต้องรักษา แพทย์จะพิจารณาและวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับอาการของคนไข้แต่ละราย ซึ่งการรักษาความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนที่อาจจะตามมา หากไม่ได้รับการรักษาอาจจะส่งผลแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่างๆ อาจจะทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้
ดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อเป็นความดันโลหิตสูง
แน่นอนว่าภาวะความดันโลหิตสูงค่อนข้างอันตรายสำหรับผู้ป่วย ซึ่งส่งผลต่ออวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย รวมถึงภาวะแทรกซ้อนที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ หากไม่มีการดูแลรักษาร่างกายที่ดี นั่นอาจทำให้ส่งผลถึงชีวิตได้
พยายามควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ โดยค่าดัชนีมวลกายจะต้องอยู่ที่ 18.5 - 22.9 กิโลกรัมต่อเมตรกำลังสอง รวมถึงการรักษาเส้นรอบเอวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (ในผู้ชายไม่เกิน 36 นิ้ว ส่วนผู้หญิงไม่เกิน 32 นิ้ว)
การออกกำลังกายที่ควรออกนั้น ควรเป็นแบบแอโรบิค(Aerobic exercise) หรือการออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง และควรปฏิบัติอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 30 นาที ระดับการออกกำลังกายที่สามารถออกได้ คือเบาถึงปานกลาง ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หนักหรือหักโหม
การเลือกรับประทานอาหาร ควรเลือกอาหารให้หลากหลายและครบ 5 หมู่ โดยใช้หลักการ "อาหารจานสุขภาพ" หรือ "ทฤษฎี 2:1:1" นั่นก็คือผัก 2 ส่วน : ข้าว 1 ส่วน : เนื้อสัตว์ 1 ส่วน หากรับประทานเนื้อสัตว์ ควรเป็นเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน และควรรับประทานผักผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ร่างกายได้รับโพแทสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม และใยอาหารที่ช่วยลดความดันโลหิตได้ นอกจากนี้หากเลือกรับประทานนมควรเป็นนมไขมันต่ำ
จำกัดโซเดียมในอาหารน้อยกว่า 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งการรับโซเดียมมากเกินไปอาจทำให้ความดันสูงขึ้น โดยในอาหารที่ไม่ได้ปรุงรสจะมีปริมาณโซเดียมอยู่ที่ 800 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ถ้าหากต้องการได้รับรสชาติเพิ่มมากขึ้น สามารถปรุงได้ไม่เกิน 1,200 มิลลิกรัม เช่น ซีอิ๊วหรือน้ำปลา 3 ช้อนชาต่อวัน
ควรงดสูบบุหรี่และงดดื่มสุรา เนื่องจากทั้งบุหรี่และสุราส่งผลกระทบทางลบต่อสุขภาพและระดับความดันโลหิต ซึ่งเป็นวิธีการที่ได้ผลดีในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่เพราะมียาบางตัวทำให้เกิดความดันโลหิตสูง แต่ถ้าหากแพทย์มีการจัดยามาให้แล้ว ควรรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ ไม่ปรับยาเอง ปฏิบัติตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
การควบคุมสภาวะทางจิตใจและอารมณ์เป็นอีกสิ่งที่สำคัญ ควรจัดการกับความเครียดไม่ให้มีมากจนเกินไป และควรหากิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย
5 เหตุผลที่ควรซื้อประกันสุขภาพอายุ 30
เหตุผลที่เราควรมีประกันสุขภาพดีๆไว้สักตัวก่อนอายุ 30 มีดังนี้
1. ได้ทุนประกันสูงด้วยเบี้ยประกันที่ต่ำ
เพราะช่วงวัยนี้ถือว่าเป็นวัยที่สุขภาพยังดี ยังไม่มีปัญหาเรื่องของสุขภาพที่จะมีผลกับการทำประกันสุขภาพ ค่าเบี้ยประกันสุขภาพในช่วงนี้จึงจะถูกกว่าช่วงวัยอื่น ทำให้เราได้ประกันสุขภาพที่คุ้มครองคุ้มค่า แต่ก่อนการทำประกันนั้นทางบริษัทประกันจะมีการตรวจสอบด้วยว่าเรามีโรคประจำตัวหรือไม่ และที่สำคัญเราสามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
2. ได้รับข้อตกลงที่ครอบคลุมมากขึ้น (มีตัวเลือกให้เลือกเยอะกว่า)
การเลือกซื้อประกันสุขภาพก่อนอายุ 30 ปีนั้น จะมีโอกาสเลือกบริษัทประกันได้เยอะกว่าช่วงวัยอื่นๆ และได้รับความคุ้มครองครอบคุมโรคร้ายต่างๆ ที่ตรวจวินิจฉัยภายหลังที่เราทำประกันอีกด้วยโดยอัติโนมัติ และทำให้เราได้รับสิทธิอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยต่างๆ นอกจากนี้เราอาจได้รับผลประโยชน์ในรูปแบบเงินคืน หากเราไม่ได้ใช้สิทธิ์ในกรมธรรม์ตามกำหนดของแต่ละบริษัทหรือแต่ละแผนประกันภัยอีกด้วย
3. รอระยะเวลารอคอยประกันได้อย่างสบายใจ
ความคุ้มครองที่เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ จะเริ่มมีผลหลังจากเลยช่วงที่เรียกว่า “ระยะเวลารอคอย” ไปแล้ว โดยระยะเวลารอคอยจะอยู่ที่ระหว่าง 30 - 120 วัน แล้วแต่ระดับความรุนแรงของโรค สรุปได้ง่ายๆ ก็คือการทำประกันไม่ใช่ว่าทำตอนนี้คุ้มครองเดี๋ยวนี้เลย จะต้องมีระยะเวลารอคอย ซึ่งผู้ที่ทำประกันสุขภาพก่อนอายุ 30 ปี ก็จะสบายใจได้เลย เนื่องจากในวัยนี้ค่อนข้างเเข็งแรงไม่มีโรคเข้ามาง่ายๆ เมื่อเทียบกับผู้สูงอายุ สามารถผ่านระยะเวลารอคอยประกันได้อย่างสบายใจ
4. ไม่ค่อยโดนปฏิเสธ
การทำประกันส่วนใหญ่บริษัทประกันจะปฏิเสธผู้สูงอายุก่อนเป็นอันดับแรก เพราะว่าเป็นวัยที่มีความเสี่ยงสูง ทางบริษัทประกันจะมีการตรวจสอบประวัติก่อนที่จะอนุมัติกรมธรรม์ให้ ดังนั้นหากทำหลังอายุเลย 30 ไปแล้ว ก็อาจจะมีความเสี่ยงที่บริษัทจะไม่ได้กรมธรรม์
5. หลังอายุ 30 มีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายมากขึ้น
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น การใช้ชีวิตประจำวันก็อาจเปลี่ยนไปด้วย เช่นต้องแบกรับการทำงานที่หนักมากขึ้น อาจทำให้เกิดความเครียดได้ง่ายขึ้น ไม่ได้ออกกำลังกาย รับประทานอาหารแช่แข็งเพื่อความสะดวกสบาย ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุของการทำลายสุขภาพดัง นั้นเราก็ควรมีตัวช่วยอย่างประกันสุขภาพไว้ดูแลเราหากเราเจ็บป่วยขึ้นมากระทันหัน ก็ยังมีตัวช่วยในการคุ้มครองจะได้ไม่เป็นภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวอีกด้วย
เปลี่ยนเงินฝากมาเป็นประกันออมทรัพย์ดีกว่าอย่างไร
ถ้าพูดถึงการวางแผนทางเงินแบบเบสิกแล้ว โดยทั่วไปหลายคนจะมีวิธีการออมเงินโดยการฝากเงิน ซึ่งเป็นการวางแผนทางการเงินแบบความเสี่ยงต่ำ เพื่อรักษาเงินต้นไม่ให้หายไป แต่ก็ต้องยอมรับสิ่งที่ตามมาว่าเราจะได้รับผลตอบแทนที่น้อย ยิ่งปัจจุบันเป็นยุคที่มีอัตราดอกเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น แต่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ลดลงเรื่อยๆ แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องมองหาแผนทางการเงินใหม่เพื่อที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี ประกันออมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับพิจารณาในการวางแผน
เปลี่ยนเงินฝากมาเป็นประกันออมทรัพย์ หรือ ประกันสะสมทรัพย์ ดีกว่าอย่างไร
ก่อนอื่น เราจำเป็นต้องทำความรู้จักกับ ประกันออมทรัพย์ หรือ ประกันสะสมทรัพย์ กันก่อน ซึ่งประกันออมทรัพย์เป็นประกันอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มีหลักการคือเน้นการสะสมเงิน (ออมเงิน) พร้อมกับความคุ้มครองชีวิตเพิ่มขึ้นมา โดยเราจำเป็นต้องส่งเบี้ยประกันตามระยะเวลาที่กรมธรรม์ระบุไว้ เมื่อครบกำหนดประกันออมทรัพย์ก็จะจ่ายเงินคืนให้เรา ซึ่งการจ่ายเงินคืนนี้จะเป็นไปตามที่เราตกลง โดยทั่วไปแล้วจะมีการจ่ายคืนเป็นก้อน หรือจ่ายเงินคืนระหว่างทางตลอดสัญญา และในกรณีที่เราเสียชีวิตระหว่างที่ส่งกรมธรรม์ ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินก้อนที่เรียกว่า "จำนวนเงินเอาประกัน" ตามที่ระบุไว้ในกรรมธรรม์
ผลตอบแทนมากกว่า
ผลตอบแทนของประกันออมทรัพย์นั้นเราจำเป็นต้องดูจากผลประโยชน์เกี่ยวกับเงินปันผล เงินคืน และเงินครบกำหนดสัญญา ซึ่งถ้ามีการจ่ายคืนแบบ "คงที่" ตรงนี้เราสามารถคำนวณจำนวนเงินได้ทันที ซึ่งมีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ ดังนั้นประกันออมทรัพย์จึงเหมาะสำหรับใครที่มีเป้าหมายเพื่อออมเงินและทำประกันชีวิตไปพร้อมๆ กัน ซึ่งตรงนี้ให้ผลตอบแทนที่มากกว่าและตรงใจ
ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้
เงินที่ได้รับจากประกันออมทรัพย์นั้นจะไม่มีการเสียภาษีใดๆ นั่นหมายถึงเราจะได้รับเงินเต็มจำนวนเมื่อครบกำหนดสัญญาของประกันออมทรัพย์ ทั้งนี้ยังสามารถใช้สิทธิเพื่อลดหย่อนภาษีได้เมื่อประกันออมทรัพย์ที่มีอายุกรรมธรรม์และคุ้มครองมากกว่า 10 ปีขึ้นไป สามารถลดหย่อนภาษีเงินได้ส่วนบุคคลได้สูงสุดปีละ 100,000 บาท
ได้รับความคุ้มครองเพิ่ม
การวางแผนทางการเงินในรูปแบบประกันออมทรัพย์ นอกจากจะเป็นการสะสมทรัพย์แล้ว ยังมีการคุ้มครองชีวิตเพิ่มเข้ามาด้วย เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือไม่คาดฝันขึ้น ยังมีความคุ้มครองจากประกันออมทรัพย์ที่จะช่วยคุ้มครองดูแลเราและครอบครัว นอกจากนี้ยังสามารถซื้อประกันอื่นๆ เพิ่มเติมได้เช่น ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ โดยที่จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล รวมถึงเงินชดเชยรายได้ระหว่างการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล
ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน
ลงทุนในรูปแบบประกันออมทรัพย์ ถือเป็นการลงทุนระยะยาวและสม่ำเสมอ เป็นการสร้างวินัยในการออมได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อครบสัญญาตามกรมธรรม์ ผู้ที่ถือประกันจะได้รับผลตอบแทนและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามกำหนด นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในด้านการลงทุนหรือวางแผนอนาคตได้อย่างมั่นคง นั่นก็คือ สามารถกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำจากมูลค่าเวนคืนเงินสดตามกรมธรรม์ได้ ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับใครที่ต้องการทำการลงทุน
ประกันออมทรัพย์เป็นการบริหารเงินออมให้เพิ่มพูนและมั่นคง การที่เรามีประกันออมทรัพย์สักฉบับ จำเป็นต้องดูที่ครอบคลุมครบถ้วนทุกความต้องการ ประกันออมทรัพย์ออนไลน์ มันนี่ ฟิต เวลท์ตี้ 11/5 ชำระเบี้ยประกันภัย 5 ปี รับความคุ้มครองชีวิต 11 ปี เมื่อครบกำหนดสัญญารับผลตอบแทนรวม 560% ยังการันตีเงินคืน ผลตอบแทนคุ้มค่า แถมยังลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท ต่อปีอีกด้วย เหมาะสำหรับการต่อยอดความมั่นคงเพื่อเป้าหมายในชีวิต ใครที่สนใจสามารถซื้อประกันออมทรัพย์แบบออนไลน์ได้ทันที สะดวก รวดเร็ว ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
การฝากเงินธรรมดาทั่วไปให้ผลตอบแทนที่น้อยมากในปัจจุบัน และยังต้องมีการเสียภาษี ซึ่งประกันออมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกทางเลือกที่ดี เพื่อเพิ่มเติมผลตอบแทนในระยะยาว และยังสามารถลดหย่อนภาษีได้ แน่นอนว่าข้อดีนี้เหมาะกับใครที่มีรายได้เข้าเกณฑ์เสียภาษี ที่สำคัญยังเหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหาการคุ้มครองชีวิต สุขภาพ รวมถึงอุบัติเหตุ ไว้ให้กับตนเองและครอบครัวอีกด้วย